การใช้ Git และ GitFlow กับโปรเจกต์ ERP ทีมขนาดใหญ่

ในโปรเจกต์ ERP (Enterprise Resource Planning) ที่มีความซับซ้อนและพัฒนาโดยทีมขนาดใหญ่ การจัดการโค้ดให้มีระเบียบและรองรับการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งจำเป็น ระบบ Version Control อย่าง Git จึงกลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ต้องมี และการใช้ GitFlow จะช่วยให้การบริหารจัดการโค้ดเป็นระบบมากขึ้น ลดความผิดพลาด และรองรับกระบวนการพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความนี้จะพาคุณเข้าใจหลักการของ Git และ GitFlow รวมถึงแนวทางการนำมาใช้ในโปรเจกต์ ERP ที่มีหลายทีมและหลายฟีเจอร์

Git คืออะไร?

Git คือระบบ Version Control ที่ใช้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของซอร์สโค้ด เหมาะสำหรับการพัฒนาโปรแกรมร่วมกันในทีม โดยสามารถย้อนกลับไปดูประวัติของโค้ด แยกสายพัฒนา และรวมโค้ดเข้าด้วยกันได้

GitFlow คืออะไร?

GitFlow คือแนวทาง (Workflow) ในการใช้ Git ให้มีโครงสร้างชัดเจน โดยแบ่งสาขาการทำงาน (branches) ออกเป็นประเภทต่าง ๆ ตามหน้าที่ เช่น

• main (หรือ master) – โค้ดที่พร้อมใช้งานจริง

• develop – โค้ดสำหรับการพัฒนา

• feature/xyz – สาขาสำหรับพัฒนาฟีเจอร์ใหม่

• release/1.0.0 – เตรียมโค้ดก่อนปล่อยใช้งาน

• hotfix/bug-fix – แก้ไขบั๊กจาก production

ทำไมโปรเจกต์ต้องใช้ Git กับ ERP

Git กับ ระบบ ERP มีหลายโมดูล เช่น การเงิน, การผลิต, การขาย, คลังสินค้า ฯลฯ ซึ่งมักมีทีมแยกกันพัฒนา การใช้ Git และ GitFlow จึงช่วยให้:

• ทีมทำงานได้พร้อมกันโดยไม่ชนโค้ดกัน

• จัดการการปล่อยฟีเจอร์หรือเวอร์ชันใหม่ได้ง่าย

• แก้ไขบั๊กได้โดยไม่กระทบฟีเจอร์ระหว่างพัฒนา

• ลดความเสี่ยงของการ merge โค้ดผิดพลาด

ตัวอย่างการทำงานแบบ GitFlow ในระบบ ERP

1. เริ่มต้นโปรเจกต์

• สร้าง main และ develop ขึ้นมาจาก main

bash

คัดลอกแก้ไข

git checkout -b develop main

2. เพิ่มฟีเจอร์ใหม่

• สร้าง branch ใหม่จาก develop เช่น

bash

คัดลอกแก้ไข

git checkout -b feature/invoice-module develop

• เมื่อทำเสร็จ merge กลับ develop

bash

คัดลอกแก้ไข

git checkout develop git merge feature/invoice-module

3. เตรียมปล่อยระบบ

• สร้าง release/1.0.0 จาก develop เพื่อตรวจสอบขั้นสุดท้าย

• หากเจอปัญหา แก้ใน branch นี้

4. ปล่อยใช้งานจริง

• Merge release เข้าทั้ง main และ develop แล้ว tag version

5. แก้บั๊กด่วน

• หากระบบมีบั๊ก ให้สร้าง hotfix/critical-bug จาก main

• เมื่อแก้แล้ว merge เข้าทั้ง main และ develop

Best Practices สำหรับทีม ERP ขนาดใหญ่

• ใช้ Pull Request (PR) ทุกครั้งก่อน merge เพื่อให้มีการตรวจสอบ

• กำหนดโครงสร้างชื่อ branch ให้สื่อความหมาย เช่น feature/hr-payroll, hotfix/inventory-qty-wrong

• ใช้ CI/CD ตรวจสอบโค้ดอัตโนมัติก่อน merge

• กำหนด Code Freeze ช่วงก่อน release เพื่อลดความเสี่ยง

สรุป

การใช้ Git และ GitFlow ในโปรเจกต์ ERP ขนาดใหญ่ไม่ใช่แค่เรื่องของเครื่องมือ แต่เป็นเรื่องของการจัดระเบียบกระบวนการพัฒนาให้ชัดเจนและปลอดภัย เมื่อทุกทีมในองค์กรเข้าใจวิธีการใช้งาน จะช่วยให้โปรเจกต์เดินหน้าอย่างมั่นคง และสามารถส่งมอบระบบที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง

หากอ่านมาถึงตรงนี้ แล้วสนใจหรือกำลังมองหาที่ปรึกษาเรื่องการเขียนโปรแกรม ทาง Softnova เรายินดีให้บริการนะครับ สามารถติดต่อทีมงานของทาง Softnova เพื่อปรึกษาหรือรับโซลูชั่นได้ฟรี

LINE : @softnova

Tel : 020955050 หรือ 099-998-9696

Email : info@softnova.co

บริการรับเขียนโปรแกรม ที่เข้าใจและพร้อมอยู่เคียงข้างคุณ :)